- หน้าแรก
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- รายละเอียดข่าว
เกษตรฯ ร่วมกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หนุนการบริโภค-การผลิตแบบยั่งยืนในภาคเกษตรและป่าไม้
ข่าวที่ 48/2560 วันที่ 28 เมษายน 2560
เกษตรฯ ร่วมกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หนุนการบริโภค-การผลิตแบบยั่งยืนในภาคเกษตรและป่าไม้
กระทรวงเกษตรฯ จับมือองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล เดินหน้าโครงการส่งเสริมการบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืนในภาคการเกษตรและป่าไม้ ด้าน สศก. พร้อมสนับสนุนข้อมูลในการดำเนินงาน มั่นใจ โครงการเกิดประโยชน์ต่อภาคเกษตร เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบายของชาติ และช่วยสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจก
นางสาวรังษิต ภู่ศิริภิญโญ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมมือกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wildlife Fund Thailand (WWF Thailand)) ดำเนินโครงการส่งเสริมการบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืนในภาคการเกษตรและป่าไม้ (Sustainable Consumption and Production in the Agricultural and Forestry Sectors: WWF-SCP) ภายใต้การสนับสนุนเงินทุนจาก International Climate Initiative (IKI) ของกระทรวงเพื่อสิ่งแวดล้อมการอนุรักษ์ธรรมชาติ ความปลอดภัยด้านการก่อสร้างและนิวเคลียร์ แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (BMUB) เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการทำแผนยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมภาคธุรกิจ รวมถึงเกษตรกร ในการผลิต และสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้บริโภคในแนวทางการบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน โดยมีระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 3 ปี (พ.ศ. 2560 - 2562) ซึ่ง สศก. จะทำหน้าที่สนับสนุนด้านข้อมูลและวิชาการในการดำเนินโครงการแก่ WWF ต่อไป
การดำเนินงานโครงการดังกล่าว จะนำไปประยุกต์ใช้ในการกำหนดนโยบายของภาครัฐและการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน รวมทั้งสนับสนุนเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกและเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคการเกษตรและป่าไม้ในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีส่วนในการสนับสนุนยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศภาคเกษตร ปี 2560-2564 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการบรรเทาและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตร ก่อให้เกิดการพัฒนาเกษตรแบบปล่อยคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน ตลอดจนการทำเกษตรแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าว จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาคเกษตร เนื่องจากมีความสอดคล้องกับนโยบายของชาติและยังสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจกในด้านเกษตรด้วย ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันภาคเกษตรของไทยยังไม่ถูกบังคับตามพันธกรณีภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) ให้มีการลดก๊าซเรือนกระจกก็ตาม แต่มีความจำเป็นต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้า อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดี ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเกษตรด้วย ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งหวังให้โครงการดังกล่าวเกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เกิดการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน และมีการเตรียมการเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปพร้อมกัน รองเลขาธิการ กล่าว
**********************************
ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์
ข้อมูล : กองเศรษฐกิจการเกษตรระหว่างประเทศ